บ้านมัคคุเทศก์ ทัวร์ : พม่า เมืองพุทธศาสนาที่ยังมีชีวิต
Licence No : 11/2394  
 
 
 
 
 
พม่า เมืองพุทธศาสนาที่ยังมีชีวิต

        พม่าประเทศที่เราต่างคิดว่าล้าหลัง ตามหลังประเทศไทยเราอยู่หลาย 10 ปี แต่ในความล้าหลังนั้น ก็ทำให้เราได้เห็น ผู้คนในพม่าเกือบทุกคนเคารพ และนับถือศาสนาพุทธ อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น เด็กเล็ก วัยรุ่น เด็กแว้น คนวัยทำงาน รวมถึงคนสูงอายุ ทุกคนจะเข้าวัดทุกวันพระ การจะเข้าวัดทุกคนจะถอดร้องเท้า เพราะถือว่า วัดเป็นสถานที่ ที่มีความสำคัญมากสำหรับพวกเขา ในอดีต ประเทศไทยเราก็เคยทำอย่างนั้น แต่ในปัจจุปันนี้แทบจะไม่หลงเหลือให้เห็นแล้ว วันนี้พวกเราทีมงาน บ้านมัคคุเทศก์ ทัวร์ จะนำท่านไปรู้จักกับ 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญสูงสุด ในพระเทศพม่า หรือ “เบญจมหาบูชาสถาน” ซึ่งมีดังนี้

        1. เจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง 
        2. พระธาตุอินทร์แขวน เมืองไจก์โถ่ 
        3. เจดีย์ชเวมอดอร์ (เจดีย์มุเตา) เมืองหงสาวดี 
        4. เจดีย์ชเวซิกอง เมืองพุกาม 
        5. พระมหามัยมุนี เมืองมัณฑะเลย

“พระมหามัยมุนี” พระพุทธรูปมีชีวิต มหาศรัทธาแห่งพม่า/ปิ่น บุตรี

พระมหามัยมุนี 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของพม่า

        วันนี้เราจะนำท่าไปรู้จักกับ พระมหามัยมุนี เมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าใน 5 สิ่ง มีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นพระพุทธรูปคือ “พระมหามัยมุนี” ที่หากใครไปมัณฑะเลย์แล้วไม่ได้ไปสักการบูชาท่าน ก็เหมือนว่ายังไปไม่ถึงมัณฑะเลย์

“พระมหามัยมุนี” พระพุทธรูปมีชีวิต มหาศรัทธาแห่งพม่า/ปิ่น บุตรี

ทุกๆวันจะมีชาวพม่าเดินทางมากราบไหว้ปิดทองพระมหามัยมุนีเป็นจำนวนมาก

        “ พระมหามัยมุนี” พระพุทธรูปมีชีวิต "

        แม้ชาวพม่าส่วนใหญ่จะเชื่อว่า พระมหามัยมุนีสร้างมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล แต่ตามประวัติและตำนานส่วนใหญ่ระบุตรงกันว่า พระมหามัยมุนีสร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. 688 โดยพระเจ้าจันทสุริยะ กษัตริย์ชาวยะไข่แห่งเมืองธรรมวดี แคว้นยะไข่

        พระเจ้าจันทสุริยะมีความศรัทธาในพระพุทธเจ้าอย่างมาก ใฝ่ฝันว่าอยากกราบไหว้พระพุทธองค์ จึงทำการสร้างพระพุทธรูปเพื่อตัวแทนของพระองค์ขึ้น ซึ่งในการสร้างมีตำนานปลีกย่อยกว่าการสร้างพระพุทธรูปของบ้านเรา คือ เมื่อเททองหล่อไป 2 ครั้งแรกไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งในครั้งที่ 3 จู่ๆ ก็มีบุคคลลึกลับที่เชื่อกันว่าเป็นเทวดาจำแลงมาเททองให้จนประสบความสำเร็จ เป็นพระพุทธรูปอันงดงามจนถึงปัจจุบัน

“พระมหามัยมุนี” พระพุทธรูปมีชีวิต มหาศรัทธาแห่งพม่า/ปิ่น บุตรี

พระมหามัยมุนีปิดทองได้ทั่วองค์ ยกเว้นพระพักตร์

        พระมหามัยมุนีได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปมีชีวิต เพราะชาวพม่าเชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้มาประทานลมหายใจอันศักดิ์สิทธิ์เข้าไปใน พระวรกายของพระพุทธรูปองค์นี้

        พระมหามัยมุนีจึงเป็นดังตัวแทนของพระพุทธองค์ที่มีชีวิตจิตใจ ใครที่มากราบไหว้บูชาจะได้รับศรัทธาอันสูงล้ำ

        พระมหามัยมุนี เป็นพระพุทธรูปหล่อทองสำริด ปางมารวิชัยทรงเครื่อง หน้าตักกว้าง 9 ฟุต สูง 12 ฟุต ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่ “วัดมหามัยมุนี” หรือชื่อแท้ดั้งเดิมคือ วัดปยกยี (Payagyi) ที่หมายถึงวัดยะไข่ เพราะเดิมพระมหามัยมุนีประดิษฐานอยู่ที่เมืองยะไข่

“พระมหามัยมุนี” พระพุทธรูปมีชีวิต มหาศรัทธาแห่งพม่า/ปิ่น บุตรี

ทองคำเปลวที่ถูกปิดมากมายจนได้ชื่อว่าพระเจ้าเนื้อนิ่ม

        ด้วยความศักดิ์สิทธิ์และความวิจิตรงดงามของท่าน ทำให้เป็นที่หมายปองของกษัตริย์พม่ามาหลายยุคหลายสมัย มีความพยายามที่จะย้ายท่านจากเมืองยะไข่มาสู่เมืองหลวงของตน แต่ไม่มีผู้ใดสามารถอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ออกมาจากเมืองยะไข่ได้ จนกระทั่งในสมัย “พระเจ้าปดุง” ถึงสามารถอัญเชิญพระมหามัยมุนีข้ามแม่น้ำอิรวดีมาประทับที่มัณฑะเลย์ได้สำเร็จในปี พ.ศ. 2327

        ในเรื่องนี้ ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์พม่า วิเคาระห์ตั้งข้อสังเกตไว้ในหนังสือ “สู่ลุ่มอิรวดี” ว่า ผลจากความสำเร็จในการอัญเชิญพระมหามัยมุนี ทำให้พระเจ้าปดุงมีความฮึกเหิมเชื่อมั่นว่าพระองค์มีพลานุภาพเหนือกว่า มหาราชองค์อื่นๆ ในอดีต (ของพม่า) ไม่ว่าจะเป็น บุเรงนองมหาราช อโนรธามหาราช หรืออลองพญามาหราช พระเจ้าปดุงจึงยกพลกรีธาทัพยกมาตีกรุงรัตนโกสินทร์ถึง 2 ครั้ง ในศึกเก้าทัพ และศึกรบพม่าที่ท่าดินแดง แต่ต้องแพ้พ่ายกลับไปทั้ง 2 ครั้ง

“พระมหามัยมุนี” พระพุทธรูปมีชีวิต มหาศรัทธาแห่งพม่า/ปิ่น บุตรี

แม้จะปิดทองไม่ได้ เข้าใกล้ได้เพียงในขอบเขตที่กำหนด แต่ทุกๆวันจะมีผู้หญิงชาวพม่ามากราบไหว้สักการะกันเป็นจำนวนมาก

        กลับมาที่เรื่องของพระมหามัยมุนีกันต่อ ด้วยความศักดิ์สิทธิ์อันเลื่องลือระบือไกล ทำให้แต่ละวันมีชาวพม่า ชาวพุทธชาติอื่นๆ และรวมถึงพุทธศาสนิกชนชาวไทย หลั่งไหลมาสักการบูชาท่านเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่เช้ายันเย็น มีเหล่าบุรุษมาเข้าคิวต่อแถวขึ้นไปปิดทององค์พระกันอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ชายสามารถขึ้นไปปิดทององค์พระแบบถึงตัวใกล้ชิดได้ แต่ห้ามปิดทองบริเวณพระพักตร์หรือหน้า ส่วนผู้หญิงนั้นห้าม ให้กราบไหว้บูชาที่ด้านล่าง โดยมีเขตห้ามผู้หญิงล้ำเข้าไป ส่วนใครอยากจะปิดทองก็ให้ฝากผู้ชายขึ้นไปปิดแทน เพราะศรัทธานั้นอยู่ที่ใจ

“พระมหามัยมุนี” พระพุทธรูปมีชีวิต มหาศรัทธาแห่งพม่า/ปิ่น บุตรี

รอยทองคำเปลวพอกพูนตะปุ่มตะป่ำอันเกิดจากศรัทธาของชาวพุทธ

        ด้วยแรงศรัทธาจากมหาชนเดินทางมาปิดทองกันเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน มีการปิดทับซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้ทองคำเปลวที่องค์พระพอกพูนมหาศาลจนพระวรกายอวบอ้วนมีตะปุ่มตะป่ำทั่วไป หมดทั้งด้านหน้าด้านหลัง จนใครหลายๆ คนเรียกขานท่านว่า “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม” หรือ “พระเจ้าเนื้อนิ่ม” ซึ่งผมได้ลองกดนิ้วลงไปในบางจุด ปรากฏว่านุ่มมือสมชื่อ

“พระมหามัยมุนี” พระพุทธรูปมีชีวิต มหาศรัทธาแห่งพม่า/ปิ่น บุตรี

พระพักตร์พระมหามัยมุนีเปรียบเทียบยุคต่างๆ

        ส่วนพระพักตร์ที่ไม่ได้ปิดทองที่ดูเปล่งรัศมีอิ่มเอิบเปี่ยมพลังแห่งศรัทธา นั้น ไกด์ชาวพม่าที่นำเที่ยวมัณฑะเลย์บอกกับผมว่าพระพักตร์หรือใบหน้าของพระมหา มัยมุนีในแต่ละยุคสมัยจะดูเปลี่ยนไปตามรูปทรงของทองที่ปิดพระวรกาย โดยที่วัดมหามัยมุนีได้มีรูปภาพแสดงองค์พระมหามัยมุนีให้แต่ละยุคให้พิสูจน์ ซึ่งผมดูแล้วพบว่าพระพักตร์ของท่านใน 4 ยุคดูไม่เหมือนกันจริงๆ ด้วย

        นับเป็นความน่ามหัศจรรย์ที่หากมองในทางวิทยาศาสตร์ มุมมองของพระพักตร์ที่เปลี่ยนไปอาจเกิดจากการสะท้อนแสงเงา เกิดจากการประมวลภาพของสายตาตามพระวรกายที่เปลี่ยนไป แต่หากมองในทางศาสนาแล้ว นี่ล้วนเกิดจากมหาศรัทธาอันยิ่งใหญ่ที่ชาวพุทธมีต่อพระพุทธรูปองค์นี้

“พระมหามัยมุนี” พระพุทธรูปมีชีวิต มหาศรัทธาแห่งพม่า/ปิ่น บุตรี

พิธีการล้างพระพักตร์อันเปี่ยมไปด้วยศรัทธา

        รับขวัญวันใหม่กับ “พิธีล้างพระพักตร์” 

        ปกติเวลาผมอยู่กรุงเทพฯ จะเป็นคนตื่นสาย เพราะไม่ชอบมาผจญรถติดในยามเช้า แต่ในวันนี้ที่มัณฑะเลย์ แม้จะต้องตื่นแต่มืดแต่ดึกก่อนไก่โห่ตั้งแต่ตีสามกว่าๆ ผมก็เต็มใจยินดี เพื่อที่เราจะได้ไปทัน “พิธีล้างพระพักตร์” พระมหามัยมุนี พิธีแห่งความศรัทธาที่จัดสืบต่อกันมานับพันปี

        ไกด์ชาวพม่าบอกกับผมว่า พิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี ปฏิบัติต่อเนื่องกันมากว่าพันปีแล้ว พิธีนี้มาจากความเชื่อนับแต่โบราณกาลของชาวพม่าที่ว่า พระมหามัยมุนีนี้ได้รับประทานลมหายใจจากพระพุทธเจ้า (ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น) จึงเป็นพระพุทธรูปที่มีชีวิตมีลมหายใจ ดังนั้นจึงต้องจัดพิธีล้างหน้า แปรงฟัน เหมือนกับคนเราให้ในทุกๆ เช้าของทุกวัน โดยไม่มีเว้นวันฝนตกหนักหรือวันหยุดพิเศษใดๆ

“พระมหามัยมุนี” พระพุทธรูปมีชีวิต มหาศรัทธาแห่งพม่า/ปิ่น บุตรี

เช็ดพระพักตร์

        พิธีล้างพระพักตร์จะเริ่มขึ้นเมื่อหลวงพ่อเจ้าอาวาสถือกุญแจมาไขในเวลา ประมาณตีสาม 45 นาที มีวงดนตรีมโหรีเล่นสดๆ ประโคมบอกให้รู้ จากนั้นเวลาประมาณตี 4 ขั้นตอนการล้างพระพักตร์จะเริ่มขึ้น มีการคลุมผ้าพระวรกายขององค์พระ ถวายอาหารผลไม้ เปลี่ยนดอกไม้เก่าออกไป นำดอกไม้ใหม่มาถวาย

        จากนั้นเป็นการล้างพระพักตร์ที่มีส่วนผสมของน้ำไม้จันทน์หอมและ “ทานาคา” สมุนไพรทำแป้งพม่าที่หลายคนคุ้นหูดี โดยขั้นตอนการล้างพระพักตร์จะล้างด้วยขันทอง 3 ครั้ง ขันเงิน 3 ครั้ง และขันธรรมดา 3 ครั้ง มีการแปรงพระโอษฐ์ (ริมฝีปาก) ที่เป็นดังการแปรงฟันให้ท่าน และมีการเช็ดหน้าที่มีคนนำผ้าเช็ดหน้ามาถวาย เช็ดวันหนึ่งๆ ไม่ต่ำกว่า 100 ผืน ซึ่งพิธีจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

“พระมหามัยมุนี” พระพุทธรูปมีชีวิต มหาศรัทธาแห่งพม่า/ปิ่น บุตรี

แปรงพระโอษฐ์

        หลังการล้างพระพักตร์เสร็จพระผู้นำการล้างพระพักตร์จะนำ “รัก” มาทาองค์พระ แล้วจึงนำปิดทอง ซึ่งช่วงนี้จะมีคนมารอต่อแถวเข้าคิวยาวทั้งชาวพม่าและนักท่องเที่ยว โดยชาวพม่าเชื่อว่าการได้ปิดทองพระมหามัยมุนีในยามเช้าเป็นการสร้างความ เชื่อมั่นให้กับการปฏิบัติภารกิจในวันนั้น ส่วนใครที่ได้ปิดทองเป็นคนแรกต่อจากพระผู้นำพิธี ผู้นั้นจะได้รับมงคลอย่างสูงล้ำ

“พระมหามัยมุนี” พระพุทธรูปมีชีวิต มหาศรัทธาแห่งพม่า/ปิ่น บุตรี

ทุกๆเช้าจะมีคนมาร่วมทำพิธีล้างพระพักตร์กันเป็นจำนวนมาก

        นอกจากจะมากราบไหว้ปิดทองแล้ว ผมยังเห็นหลายคนยังมานั่งสมาธิ สวดมนต์ นับประคำ ซึ่งถือเป็นเรื่องชินตาของที่นี่นับตั้งแต่เช้าไปจนค่ำมืด ส่วนผู้หญิงที่แม้จะขึ้นไปปิดทองไม่ได้ ทางวัดกันเขตไว้ ก็ดูจะไม่เป็นอุปสรรคต่อศรัทธา เพราะมีการเดินทางมากราบไหว้ นั่งสมาธิ สวดมนต์ ทำบุญ ทำทาน กันอยู่ทั่วไป

“พระมหามัยมุนี” พระพุทธรูปมีชีวิต มหาศรัทธาแห่งพม่า/ปิ่น บุตรี

เทวรูปขอมโบราณที่เชื่อว่าเจ็บป่วยตรงไหนให้ไปลูบตรงนั้นแล้วจะดีขึ้น


        นอกจากพระมหามัยมุนีแล้ว ที่วัดมหามัยมุนี ยังมีสิ่งน่าสนใจได้แก้อาคารสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์แบบพม่า รูปเคารพ ศิลปวัตถุต่างๆ โดยที่ด้านข้างวิหารพระมาหมัยมุนีมีศาลาเก็บเทวรูปหล่อสำริดศิลปะขอมสมัยพระ เจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นรูปทวารบาล สิงห์และช้างเอราวัณ ซึ่งชาวพม่าเชื่อว่าใครที่เจ็บปวดตรงส่วนไหนของร่างกาย ให้มาลูบคลำตรงส่วนนั้นของเทวรูปก็จะทำให้อาการดีขึ้นหรือช่วยรักษาอาการได้ 

        นอกจากนี้ที่วัดมหามัยมุนียังเป็น ตลาดขายของที่ระลึกที่สำคัญ มีสินค้าที่ระลึกมากมายให้เลือกซื้อส่วนใครที่ไปในตอนเช้าจะมีพระ-เณร มาบิณฑบาตเรี่ยรายบุญ มีอาหาร-ขนมพื้นบ้านมาขาย อีกทั้งยังจะได้พบกับภาพวิถีชีวิตอันน่าสนใจให้สัมผัสกัน

 

สนในโปรแกรม ติดต่อ บริษัท บ้านมัคคุเทศก์ ทัวร์
โทร 02-374-7222

เดินทางวันที่ 23-26 ธันวาคม 2558

รายละเอียดโปรแกรม

Download

 

ติดตามพวกเราได้ที่ : บ้านมัคคุเทศก์ ทัวร์ 
Facebook BMT Channel :www.facebook.com/BaanMakkutedtour
Youtube BMT Channel :www.youtube.com/channel/UCvVUwcxfq76LT2ot6L9EqSQ
Website BMT Tour : www.bmttour.com/

เครดิต : ปิ่น บุตรี
แหล่งที่มา : http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000084916

 
 
 
 
 
บริษัท บ้านมัคคุเทศก์ จำกัด  Baan Makkuted Co.,Ltd.    Licence No : 11/2394
271/5 หมู่บ้านกิตติชาติ ซ.ลาดพร้าว 101 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพ 10310 
Tel : 02-374 7222 (Auto)   Fax : 02-3748343   E-mail : info@bmttour.com
บริษัท บ้านมัคคุเทศก์ ทัวร์ : ทัวร์ในประเทศ : ทัวร์ต่างประเทศ : แพ็คเกจทัวร์ : โปรแกรมทัวร์ : ท่องเที่ยวเมืองไทย : สัมมนา : กรุ๊ปเหมา : ตั๋วเครื่องบิน : ยื่นวีซ่า : ประกันภัยการเดินทาง